วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ย้ายบ้านครับ

หลังจากทดลองเขียนมาระยะนึง ก็ถึงเวลาขยับตัวอีกนิดนึงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ กิจกรรมหลายๆ อย่างที่จะทำบนเว็บไซต์นี้ เบื้องต้นเราได้ย้ายข้อมูลจาก Blogger ไปอยู่ที่ Wordpress ของเราเอง และคิดว่าจะชี้ Domain ไปที่ใหม่เร็วๆ นี้

สำหรับ Link เก่าๆ จะไม่สามารถเข้าได้เพราะระบบการสร้าง URL ไม่เหมือนกัน อันนี้พลาดไปครับ :'-(

[update 2017]
ถ้า domain ux.in.th เข้าไม่ได้ ก็สามารถอ่านต่อได้ที่ blog.uxacademy.in.th นะครับ
แต่ถ้าอยากพูดคุยกันก็เข้าไปได้ที่ Facebook.com/groups/uxinth หรือพิมพ์ uxinthai.com ก็ไปที่เดียวกันครับ

แล้วเจอกันที่บ้านใหม่นะครับ

โชคดีปีใหม่ครับ :-)

วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

กฎของการระดมสมอง

วันเสาร์ที่ผ่านมาได้ไปร่วม Design Thinking Workshop ที่ The sync มา ได้อะไรดีๆ มาหลายอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากเอามาแลกเปลี่ยนกันครับ คือตอนใกล้ๆ จะจบงานวิทยากรเล่าถึงกฎในห้องประชุมของ IDEO ที่มีอยู่ 7 ข้อ ซึ่งช่วยให้การประชุมได้ประสิทธิผลสูงสุด



ผมมองว่าชาว UX ต้องระดมสมองบ่อยมากๆ เพื่อให้ได้งานที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ และสร้างสรรค์ที่สุด แต่หลายครั้งจะกลายเป็นว่าคำตอบนั้นมีอยู่ก่อนการประชุมแล้ว และในที่ประชุมก็เป็นแค่การเสนอ Solution และปกป้อง Solution ของตัวเอง สุดท้ายถ้าปกป้องไม่ได้ก็แทบจะไม่ได้อะไรจากการประชุมเลย

แต่จริงๆ สิ่งที่เราอยากได้จากห้องประชุมคือการเค้นเอาความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของทุกคนในห้องประชุมออกมาต่างหาก ส่วนแนวทางแก้ปัญหามันน่าจะตามมาตอนจบ

แล้วกฎ 7 ข้อจะช่วยให้เราทำแบบนั้นได้อย่างไร เรามาดูกันทีละข้อครับ

ข้อ 1 อย่ารีบตัดสิน

ในห้องประชุมที่ต้องการสร้างสรรค์งาน เราจะไม่รีบตัดสินอะไร เพราะเราไม่รู้ว่าแนวคิดดีๆ จะมาจากไหน บางครั้งแนวคิดดีๆ อาจจะมาจากแนวคิดบ้าๆ หรือแนวคิดที่เป็นไปไม่ได้เลยก็ได้ ดังนั้นให้เราเปิดโอกาสให้ทุกอย่างถูกดึงออกมา ที่ IDEO จะพยายามต่อยอดแนวคิดกัน เช่น จากที่คุณบอกว่าให้ทำกีต้าลอยน้ำ ผมมองว่าการเอาวาดสายกีต้ามาแต่งบนตัวเรือน่าจะแก้ปัญหาความเร็วได้ เป็นต้น

ข้อ 2 สนับสนุนแนวคิดบ้าๆ

แนวคิดบ้าๆ เป็นเหมือนเชื้อไฟให้กับการสร้างสรรค์ และเวลาที่เรากำลังสร้างสรรค์เราจะพยายามหาคำตอบโดยไม่ยึดติดกับเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ เราจะลองหาคำตอบออกมาก่อน จากนั้นค่อยคิดว่าจะมีอะไรมาทำให้มันเป็นจริงได้

ข้อ 3 ต่อยอดแนวคิดของคนอื่น

การยอมรับแนวคิดของคนอื่นและต่อยอดแนวคิดนั้นๆ เป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะระดับหนึ่ง  ซึ่งทำได้ยากดังนั้นในที่ประชุมเรามักจะเห็นการบอกว่าแนวคิดนั้นดี หรือแนวคิดอื่นดีกว่า แทนที่จะเป็นความพยายามที่จะต่อยอด แต่ผมมองว่าการฝึกต่อยอดนั้นคุ้มเพราะนอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการสร้างสรรค์แล้ว มันช่วยแก้ปัญหาการสื่อสารเพราะเราไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้ง และที่สำคัญคือมันทำให้เกิดความรู้สึกว่าเราทำงานเป็นทีม

ข้อ 4 อย่าหลุดประเด็น

พยายามจับประเด็นให้มั่นว่าเรากำลังพยายามแก้ปัญหาอะไร เพราะถ้าเราเริ่มหลุดสุดท้ายเราจะไม่ได้แก้ปัญหาที่ควรจะแก้

ข้อ 5 พูดทีละเรื่อง

ทุกคนมีแนวคิดที่อยากจะนำเสนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีแต่ขอให้คิดเสมอว่าแนวคิดนั้นๆ จะเข้ามาแก้ปัญหาในเรื่องเดียวกันหรือเปล่า เพราะเมื่อเราเริ่มไม่ได้แก้ปัญหาเดียวกันสิ่งที่เกิดขึ้นคือการแบ่งกลุ่ม และการไม่รับฟังกัน

ข้อที่ 6 จับต้องได้

พยายามทำให้แนวคิดของเราไม่ลอยอยู่ในอากาศ การใช้ Post-It ก็เป็นแนวทางหนึ่ง ถ้าสามารถวาดรูปออกมาได้ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก ไม่ต้องห่วงว่าเราวาดห่วยแค่ไหน เพราะการวาดดีกว่าตัวหนังสืออยู่แล้ว

ข้อที่ 7 ปริมาณสำคัญกว่าคุณภาพ

ผมพบว่าการเก็บ idea ของเราไว้ในหัวคนเดียวแล้วเอาเฉพาะที่เห็นว่าดีออกมาเป็นเรื่องที่เสียเวลาอย่างมาก เพราะคนอื่นๆ ก็มักจะมีแนวคิดคล้ายๆ กัน จะได้ไม่ต้องคิดซ้ำ ดังนั้นระหว่างระดมสมองให้ ส่งแนวคิดของพวกเราออกมาให้มากที่สุด ยังไม่ต้องรีบคำนึงถึงคุณภาพ เช่น 100 แนวคิดใน 1 ชั่วโมง เป็นต้น เพราะคุณภาพจะเห็นได้แบบไม่ต้องใช้เวลาตอนเทียบกับ idea อื่นๆ ไม่ใช่เทียบกับตัวมันเอง

กฎทั้ง 7 ข้อ นอกจากช่วยลดเวลาแล้ว ยังช่วยให้เกิดการทำงานเป็นทีมด้วย อยากให้ชาว UX ลองปรับใช้ดูครับ เพราะมันน่าจะเป็นกระบวนการที่ดีทั้งกับคนในองค์กรหรือแม้แต่การคุยกับลูกค้า

เพิ่มเติม openideo.com

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ออกแบบ Pantip บน iPad

หลายสัปดาห์ก่อนมีเพื่อนสมาชิกคนนึงบน https://www.facebook.com/groups/ux.in.th/ ทดลองออกแบบหน้าจอ ipad สำหรับ App Pantip แล้วมา Post ให้คนในกลุ่มช่วยกันออกความคิดเห็นครับ ตอนนั้นเขียนไปค่อนข้างยาว เห็นว่าน่าจะบันทึกเอาไว้ เลยขอทำซ้ำไว้บนนี้อีกชุดนึง
หน้า login
เริ่มจากหน้า Login ครับ หน้านี้ดูแล้วสวยดี เข้าใจง่ายเพราะมีตัว Login ค่อนข้างเด่น ผู้ใช้เข้ามาแล้วรู้ว่าตอนนี้เปิด App อะไรอยู่โดยดูจาก Logo ที่เด่นอยู่ด้านบน ถ้าให้ดีน่าจะมีปุ่ม skip ในกรณีที่เค้าอยากเข้าไปดูก่อนว่าโปรแกรมหน้าตาเป็นอย่างไร ก่อนที่จะสมัครสมาชิก

ชุดปุ่ม "ลืมรหัสผ่าน ขอบัตรผ่าน สมัครสมาชิก" ดูเหมือนออกมาจากตัว (i) ซึ่งจริงๆ ตัว i จะสื่อถืง information แต่ปุ่มทั้งสามเป็น action ไม่ใช่ information ทำให้คนเดาได้ลำบากครับ ถ้าทำเป็นตัวหนังสือที่ไม่เด่นมาก หรือวาดสวยๆ ฝังลงไปกับ background จะดูดีกว่าให้ดูเหมือนออกมาจากตัว (i)

ส่วน (i) อาจจะเอาไว้แสดง information จริงๆ เช่น about us contact us หรือเป้าหมายน่าจะดีกว่าครับ

ปุ่ม On/Off ควรระวังเรื่อง Accessibility ด้วยครับ ในกรณีที่ผู้ใช้กลับขาวเป็นดำ ในกรณีของคนตาบอดสี เค้าจะดูยากว่าเป็น On หรือ Off ลองอ่านเรื่อง accessibility ในนี้ดูครับ
หน้าเลือกห้อง

หน้าเลือกห้อง ผมเดาว่าเป็นหน้าที่ผู้ใช้ Login เข้ามาครั้งแรกจะเจอหน้านี้เลย หน้านี้ดูสวยและเข้าใจง่าย

เท่าที่ดูมี flow แปลกๆ นิดนึงครับ อันแรกคือการเอาปุ่ม Post ไปไว้มุมบนซ้ายสุด ผมมองว่าธรรมชาติของการ Post น่าจะเป็นการเลือกห้องก่อน แล้วค่อยกด Post ดังนั้นการ Post น่าจะอยู่ในส่วนขวามือ ภายในห้องเท่านั้น จะประหยัดทั้งการพัฒนา และทำให้เข้าใจได้ง่ายครับ

ผมเสนอให้เราใช้ Logo ของ Pantip มาแทนปุ่ม Post เพื่อเป็นการตอกย้ำ Brand ครับ

ที่ Tab ด้านซ้ายจะใช้ 3 องค์ประกอบที่ใช้บอกว่าเลือก Tab นี้อยู่

  1. เปลี่ยนสี icon 
  2. เปลี่ยนสี Background 
  3. ทำลูกศรชี้ 

ผมมองว่าใช้ตัวใดตัวหนึ่งก็พอครับ หรือใช้แค่เปลี่ยนสี icon กับเปลี่ยนสี background เล็กน้อยก็น่าจะสวยและง่ายในการแสดงผลตอนที่เข้าไปในห้องแล้วด้วยครับ หรืออีกแบบคือดูว่า Apple ใช้วิธีไหนในการแสดง Active Tab เราก็ใช้วิธีการเดียวกัน เพื่อลดการเรียนรู้ของผู้ใช้

การเลือกห้องผมเชื่อว่าผู้ใช้จะเลือกจากชื่อของห้องมากกว่า icon ครับ ดังนั้นอาจจะทำชื่อให้อ่านง่ายขึ้น เช่นตัวใหญ่ขึ้น ส่วน icon ผมคิดว่าผูัใช้ pantip น่าจะจดจำชุดของห้องไว้ด้วย เช่น ชุด cafe ชุด technical เป็นต้น น่าจะลองจัดเป็นชุดๆ ด้วยสี หรือเส้นดูครับ

ต้องคิดเผื่อตอนที่มีห้องมากกว่านี้ หรือตอนที่ผูัใช้มีห้องที่เข้าประจำด้วย ว่าทำอย่างไรให้เค้าเข้าห้องนั้นได้ง่ายที่สุด เพราะต้องเข้าเป็นประจำ เช่นอาจจะให้ลากมาใส่ทางซ้ายมือได้

หน้าแสดงกระทู้ห้องชายคา

หน้าแสดงกระทู้ห้องชายคาผมชอบเรื่องสี ที่ทำให้ส่วนของการอ่านกระทู้เป็นสีขาวอ่านได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะขัดกับหน้าเว็บเก่าที่เป็นสีดำ แต่ผมคิดว่าตัวอักษรสีเข้มบนพื้นขาวอ่านง่าย ตรงจุดนี้ผมคิดว่าถ้าผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นสีดำหรือสีขาวได้จะดีมากครับ เพราะเวลาอ่านในห้องมืดๆ จะได้ปรับเป็นสีดำ เวลาอ่านในที่มีแสงจะได้ปรับเป็นสีขาว

กลับมาที่ปุ่ม Post ทางซ้ายมือ เมื่อเข้ามาที่หน้านี้แล้วผมจะไม่แน่ใจว่าเมื่อกดแล้วมันจะพาผมออกไปนอกห้องหรือเปล่า และไม่แน่ใจว่ามันทำงานต่างจากปุ่ม [ + ] ทางขวามืออย่างไร

ถัดมาเป็นแผ่น ชายคา อันนี้จะแปลกๆ ว่า "Tab เลือกห้อง" ไม่ถูกเลือกค้างไว้ ทำให้เหมือนว่าผมออกมาแล้ว เหมือนเป็นหน้าลอยๆ ไม่อยู่บน Tab ไหนเลย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แปลกสำหรับ iOS ครับ จะให้ดีน่าจะให้เลือก "Tab เลือกห้อง" ค้างไว้ แล้วใส่ปุ่ม Back เพื่อกลับไปหน้าเลือกห้อง

Tab "ทั้งหมด แนะนำ และ หมวดหมู่" น่าจะใช้ขนาดมาตรฐานของ iPad ครับ จะช่วยให้ ผู้ใช้รู้สึกคุ้นเคยได้ง่าย และอย่าลืมตรวจเรื่อง Accessibility ด้วยนะครับ (มีคนตาบอดใช้ pantip เยอะอยู่ครับ)

รายการกระทู้ถ้าแอบบอก ชื่อผู้เขียนและเวลาไว้ด้วย น่าจะดีครับ เพราะของเก่ามีตรงนี้อยู่ อาจจะมีรหัสของกระทู้ด้วยก็ดี

ปุ่ม + ทางขวามือ ผมไม่แน่ใจว่าคืออะไร แต่น่าจะทำให้ชัดเจนกว่านี้ครับ ถ้าเป็นการตั้งกระทู้เพิ่ม อาจจะเอาไว้รวมกับรายชื่อกระทู้ครับ แล้วลองเปลี่ยน icon เป็นรูปดินสอคล้ายกับ Twitter น่าจะช่วยให้เรียนรู้น้อยลงครับ หรือจะยั่วให้ตั้งกระทู้ โดยใช้ช่องว่างๆ ไว้เหมือน Facebook ก็น่าสนใจครับ

ตอนนี้การแสดงผล ส่วนที่เป็นข้อคิดเห็นกับส่วนที่เป็นกระทู้จะหน้าตาคล้ายกันมาก ต่างกันที่สีอาจจะยังไม่พอครับ 

นอกจากนั้นปกติบอลลูนคำพูดจะต้องออกมาจากคนเหมือนรูปในส่วนข้อคิดเห็น แต่ในส่วนที่เป็นกระทู้ บอลลูนจะออกมาจากหัวใจ เลยจะแปลกๆ

ทั้งหมดก็ประมาณนี้ ผมพยายามใส่เฉพาะในส่วนที่เป็นภาพรวม เพราะถ้าลงรายละเอียดน่าจะลงได้หลังจากคุยที่มาที่ไปมากกว่านี้ครับ

ต้องขอบคุณ iwattgetmore มากๆ ครับ การได้คิดแบบนี้สนุกมากเลย และถ้าสมาชิกท่านอื่นๆ ได้ช่วยกันเสนอข้อคิดเห็นในมุมต่างๆ เราคงได้เรียนรู้กันมากมายครับ


วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เติมพลังให้นักพัฒนา

หลายครั้งคนทำ UX ที่หมดพลังจะคิดถึงลูกค้าแล้วส่งงานตามใจตัวเอง หลายครั้งทีมพัฒนาหมดแรงแล้วส่งผลงานแค่ทำงานได้ หลายครั้งที่ทีมออกแบบหมดแรงแล้วส่งงานที่จบแค่สวย หลายครั้งทีมทดสอบระบบหมดแรงแล้วทดสอบไปตามขั้นตอนปกติ

เมื่อทีมหมดแรง ผมแนะนำให้ดูวีดีโอนี้ครับ


Making a difference. One app at a time.

ตัววีดีโอบอกว่า "เมื่อเราไม่ยอมแพ้ App ของเราจะมีค่าแค่ไหน" และ "เมื่อเราไม่ยอมแพ้จะมีอีกกี่คนที่กล่าวขอบคุณในความตั้งใจของทีม"


โปรแกรม Ariadne GPS ไม่ได้หยุดแค่ทำให้คนทั่วไปใช้งานได้ 
แต่เค้าทำให้คนตาบอดสามารถท่องไปในโลกกว้างหรือแม้แต่ในป่า


โปรแกรม 3D4Medical ไม่ได้หยุดแค่ App ที่ให้ข้อมูลครบถ้วน
แต่เค้าเลือกที่จะทำให้มันง่ายและดึงดูดความสนใจ มากพอที่จะเปิดโลกใบใหม่ให้กับเด็กๆ

ขอให้คนที่คำนึงถึง UX ทุกคนมีพลังพอที่จะสร้างสรรค์งานที่ดี ไม่เฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายใหญ่แต่คำนึงถึงความเท่าเทียมกัน ไม่หยุดแค่ดีแล้วเพราะยังมีดีกว่าเสมอครับ

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ตัวอย่างผลสำเร็จในการทำ UX ของ IBM

ในหนังสือ A project guide to UX design แนะนำให้อ่าน pdf จากเว็บไซต์ hesketh.com เป็นบทความที่เกี่ยวกับการใช้ UX ในบริษัท ผมลองไปตามหาดูปรากฏว่ามันหายไปจากใน URL ที่หนังสือให้มาแล้ว แต่ยังมีเก็บไว้ที่ www.hesketh.com/sites/default/files/user_experience.pdf (เพื่อความแน่ใจผมเลยเก็บไว้บน dropbox อีกหนึ่งชุด)

ใน pdf เค้าเริ่มต้นด้วยการยกข้อความจากนิตยสาร The New York Times มาให้อ่านกัน โดยในบทความเล่าถึง IBM เว็บไซต์ในช่วงปี 1998 ซึ่งพยายามทำ e-business บนเว็บไซต์ของตัวเอง


แล้ว IBM ก็พบว่า feature ที่คนใช้มากที่สุดคือ search โดย Carol Moore ซึ่งเป็น vice president ในส่วนของ internet operations ให้เหตุผลที่มันได้รับความความนิยมสูงสุดว่า "เพราะคนใช้ คิดไม่ออกว่าจะไปยังที่ต่างๆ บนเว็บไซต์ได้อย่างไร" ส่วน feature ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองคือ help เพราะว่าเทคโนโลยีการ search ในตอนนั้นยังทำได้ไม่ดี

IBM จึงตัดสินใจลงทุนออกแบบเว็บไซต์ใหม่เป็นเวลา 10 สัปดาห์ โดยเว็บใหม่นั้นเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 1999 หลังจากเปิดตัว ผลลัพธ์ในสัปดาห์แรกพบว่า ปุ่ม help มีการใช้งานลดลง 84% และยอดขายเพิ่มขึ้น 400%

ข้อความข้างต้นอยู่ในบทความ Good Web Site Design Can Lead to Healthy Sales

ในบทความของ hesketh.com ยังพูดถึงความหมายของ user experience และแนวทางที่จะใช้ในการชักชูงฝ่าย Marketing ให้หันมาลงทุนใน User Experience มากขึ้น ดังนั้นใครที่กำลังงัดข้อเรื่อง User Experience อยู่ น่าจะลอง download มาอ่านดูนะครับ