วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

5 ความเชื่อที่บั่นทอนพลังของ UX

สิ่งที่ท้าทายมากๆ สำหรับคนทำ UX คือการบอกทุกคนในทีมให้ทำงานโดยมี User eXperience เป็นศูนย์กลาง เพราะทุกคนต่างก็มีงานของตนเอง มีหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องทำ การทำงานแบบปลอดภัยไว้ก่อน หรือ Defensive Style จึงมักอยู่ในใจมากกว่าความพยายามทำให้ลูกค้ามีความสุข

โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้บริหาร ส่วนมากมักมีหน้าที่ทำให้ระบบที่มีอยู่แล้วยังคงทำงานได้แบบเดิม การจะทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่มีความสุข แล้วไปลดความสุขของลูกค้าบางคน จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก ผู้บริหารมักถูกกดดันโดยหลายเรื่อง เช่น การบริหารความเสี่ยงในองค์กร ลำดับความสำคัญของงาน การสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน จนทำให้เกิดความเชื่อฝังหัวขึ้นมาหลายอย่าง

ผมลองยกตัวอย่างความเชื่อที่ขัดกับแนวทาง UX มาซัก 5 อย่างครับ
เลือกเข้าตลาดก่อนแทนที่จะทำสินค้าให้ดี
การเอาสินค้าออกสู่ตลาดก่อนเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ถ้าสินค้าของเรายังไม่ดีพอมันจะสร้างความประทับใจทางลบ และทำให้โอกาสที่จะกลับมาเลือกเราอีกครั้งเป็นเรื่องยาก ดังนั้นให้แน่ใจว่าเราทำของดี แล้วค่อยปล่อยออกไป
เลือกเก็บเงินไว้แทนที่จะลงทุนในเรื่องประสิทธิภาพ
ผมมองว่าประสิทธิภาพนั้นเงินซื้อไม่ได้ ดังนั้นถ้ามีโอกาสที่จะเอาเงินแลกประสิทธิภาพได้ ก็อย่าปล่อยโอกาสนั้นไป
ใช้แนวทาง Six Sigma ในการสร้างนวัตกรรม
แนวทางของ Six sigma เป็นการบริหารที่มุ่งเน้นในการลดความผิดพลาด  ลดความสูญเปล่า และลดการแก้ไขตัวชิ้นงาน และสอนให้พนักงานรู้แนวทางในการทำธุรกิจอย่างมีหลักการ  และจะไม่พยายามจัดการกับปัญหาแต่จะพยายามกำจัดปัญหาทิ้ง ดังนั้นเมื่อเรานำมาประยุกต์ใช้กับการสร้างนวัตกรรมมันจะขัดกันเพราะ นวัตกรรมในช่วงเริ่มต้นมักจะสร้างปัญหา และมีความสูญเปล่ามากมาย จนกว่ามันจะถูกขัดเกลาไปสักพัก
พยายามตามเก็บ feature ให้ทันคู่แข่ง แทนที่จะพยายามสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่แตกต่าง
ถ้าเราคิดไม่ทันคู่แข่ง เราจะเน้นลอกของคู่แข่งเพราะง่ายกว่า และเห็นผลชัดเจน แต่สุดท้ายก็จะยากมากที่จะเอาชนะคู่แข่ง ทางที่ดีคือหาทางเล่นในเล่นในเกมส์ของตัวเอง เหมือนที่ Amazon ฉีกตัวเองไปจากแนวทางที่ Apple สร้างไว้
ออกแบบโดยแน้นหน้าตาที่สวยงาม โดยยึดติดกับการตลาดและสิ่งที่จะใช้โฆษณา
งานออกแบบควรสวยงามเป็นเรื่องจริงครับ แต่เราไม่ควรยึดเรื่องนี้เป็นหลัก ความสวยงามควรจะมาหลังจากที่โปรแกรมตอบโจทย์ของลูกค้าแล้ว และไม่ควรยึดติดกับแนวทางการตลาดที่วางไว้ จริงๆ แนวทางการตลาดควรพร้อมปรับตัวเพื่อให้ได้ UX ที่ดี

ที่มา : หนังสือ Effective UI

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น