วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บน Finder

Finder เป็นเครื่องมือตัวนึงที่มีการเก็บรายละเอียดเยอะมากๆ หลายครั้งรายละเอียดเหล่านั้นทำให้การพัฒนา Application อื่นๆ ง่ายไปด้วย

โปรแกรม Finder

ตัวอย่างเช่นการเก็บรายละเอียดของวันที่ ตอนที่แสดงผลแบบตาราง ถ้าใครได้สังเกตุ จะเห็นว่าเวลาที่เราย่อ column ของวันที่ลงมา แทนที่มันจะตัด Text ให้สั้นลง แต่ Finder เลือกที่จะแปลง Text ใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดของ column ให้เลย


ถ้าขนาดของ column ยาวเหลือเฟือ มันจะแสดงวันที่ในรูปแบบที่อ่านได้ง่ายที่สุด ไม่มีตัวย่อ


ถ้าขนาดของ column ย่อลงมาจนแสดงได้ไม่เต็ม Finder จะลดรูปของเดือนให้เหลือเป็นแค่ตัวย่อ


ถ้าย่อลงอีกมันจะแปลงเดือนให้เป็นตัวเลขแทน


ถ้าย่อมากๆ มันจะเลือกไม่แสดงผลเวลา เพื่อให้ยังคงอ่านได้อยู่


ถ้าย่ออีกเล็กน้อย แทนที่จะใช้วิธีตัดตัวอักษรออก มันเลือกที่จะลดช่องว่างระหว่างตัวหนังสือลงเล็กน้อย เพื่อให้สามารถแสดงผลได้ครบทุกตัวอักษร


สุดท้ายถ้าแปลงไม่ได้แล้ว มันจะเลือกตัดตัวอักษรตรงกลางออกก่อน เพื่อให้เรายังเห็นภาพรวมทั้งหมดอยู่ ทีนี้ เมื่อ Finder สามารถทำได้ตารางใน Application อื่นๆ บน Platform นี้เลยสามารถทำได้ไปด้วยเลย

การเก็บรายละเอียดแบบนี้ จะไม่คุ้มเลยถ้า Framework Cocoa ไม่ได้ช่วยเอื้อให้การส่ง Event Message  ของการเปลี่ยนแปลงทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมันจะทำให้สิ้นเปลือง CPU ในการคำนวนและสิ้นเปลืองแรงในการพัฒนามาก ดังนั้นสิ่งที่เราเห็นตรงนี้จึงเหมือนวงดนตรีที่เล่นประสานกันอย่างดี ทั้งคนที่พัฒนา Framework คนที่พัฒนาโปรแกรม คนวาง Guideline คนออกแบบ และ คนที่ควบคุมคุณภาพงาน ทำให้เกิด UI ที่เป็นธรรมชาติ จนผู้ใช้ไม่รู้สึกสะดุดในการใช้งาน

หลายครั้งความราบรื่นก็ทำให้ผู้ใช้ไม่ทันได้สังเกตุสิ่งที่เราออกแบบไว้ แต่ก็เหมือนกับดนตรีครับ ถึงไม่ได้สังเกตแต่สามารถรู้สึกได้ ผมมองว่าแบบนั้นต่างหากที่เป็น User eXperience ที่คาดหวังไว้ 

แต่ก็อาจจะค้านกับคนทำการตลาดนะครับ เพราะความรู้สึกแบบนั้นมันทำให้ลูกค้าเอาไปพูดปากต่อปากได้ยากขึ้น เพราะพูดได้แค่ว่า "ของมันดี" แต่อธิบายไม่ได้ว่าดีอย่างไร อันนี้ก็ต้องชั่งน้ำหนักกันเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น