วันนี้ได้ลอง App ของคนไทยตัวนึง แล้วทำให้นึกถึงวีดีโอในงาน WWDC 2012 ที่พึ่งดูมาครับ มีอยู่ตอนนึงเค้าพูดถึงการออกแบบ Application บน iPhone โดยในนั้นจะมีคำแนะนำอยู่หลายข้อ ข้อที่ผมยกมาคือ ให้ระวังเรื่องการ "Force Register" คือ การที่พอผู้ใช้เปิด App เข้ามาก็เจอปุ่ม Sign Up! ปุ่ม Sign In เลย แทนที่จะเจอเนื้อหาที่เค้าสนใจ
ภาพตัวอย่างหน้าแรกจาก WWDC 2012
อย่างในรูปเป็น App ปลอม ที่เค้าทำปุ่มมาสองปุ่ม อันแรกเห็นชัดๆ คือ Sign Up! คือบอกให้สมัครสมาชิก ส่วนปุ่มที่สองคือ Sign in คือถ้าเป็นสมาชิกแล้วให้กดปุ่มนี้ แต่เค้าพบว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่จะกดปุ่มที่สาม คือปุ่ม Home
เพราะว่าผู้ใช้ยังไม่ได้รู้จักว่า App นี้ดีแค่ไหน เห็นใน App Store ว่าน่าสนใจก็ Download มา ถ้ามันเริ่มต้นก็ทำให้รำคาญ มันก็น่าจะหนีอยู่นะครับ
แต่เค้าก็ไม่ได้บอกว่าทุก App ไม่ควรมี Force Register เพราะ App ของงาน WWDC ก็บังคับ Login หรือพวก App ที่เป็น Client ชัดเจนถ้าไม่ Login จะใช้งานไม่ได้เลยพวกนี้ก็ต้องให้ Login ก่อน
ผมมองว่าถ้าเค้ามีฝั่ง Server ชัดเจนอยู่แล้วเช่น Facebook, Twitter พวกนี้จะบังคับให้ผู้ใช้ Login ก่อน ก็ไม่แปลก หรือพวก Line, Path จะบังคับ Register ก่อนก็เป็นเรื่องจำเป็น แต่จะมีบาง App เช่น Fondu เป็นต้น
Fondu: Dining Journal
First launch user experience
Fondu เป็น App Social Network ด้านอาหาร มีหน้าให้ Login ก่อน ด้วย Facebook ตั้งแต่เปิดมาครั้งแรก แต่คนทำเค้ารู้ว่าจริงๆ แล้วผู้ใช้ไม่จำเป็นต้อง Login ก็สามารถอ่าน Review อาหารของคนอื่นๆ ได้ โดยกดที่คำว่า "Get a taste >" โปรแกรมก็จะนำผู้ใช้ไปที่หน้ารายการอาหาร
ไว้ตอนที่ผู้ใช้ต้องการจะ Share หรือ Review ตอนนั้นค่อยมา Register อีกที ตอนนั้นผู้ใช้จะมีกระใจที่จะ Register แล้ว เพราะรู้จัก App นี้แล้วและมีความต้องการจะทำอะไรบางอย่างอีกต่างหาก
ทีนี้กลับมาที่ App ที่เป็นต้นประเด็นของ Post นี้
หน้าแรก และ หน้า Sign in ของ Shop*Spot
Shop* Spot เป็น App personal e-commerce ซึ่ง concept ดีมากๆ ผมแนะนำให้ทุกคน Load มาใช้ครับ แต่มันมีประเด็นเรื่อง UX นิดหน่อยตามนี้ครับ
ในหน้าแรกของโปรแกรมจะมีแถบริบบิ้นเขียนว่า Sign in ก่อน อันนี้เป็นด่านแรก ถ้าผมยังไม่มี Account อาจจะคิดว่า App นี้เป็นแบบ Member only หรือเปล่า เพราะไม่มีปุ่มให้ register และผมอาจจะกดปุ่ม Home หนีไปเลยก็ได้
อีกปัญหาคือตัวริบบิ้นมันไม่ได้สื่อว่ากดได้ อาจจะเป็นการบอกว่าหน้านี้คือหน้า Sign in หรือจะให้ดึงริบบิ้น ไม่ได้ให้กด สมมุติว่าเดาถูกแล้วกด Sign in เข้ามาได้ ผมจะเจอหน้า Sign in ซึ่งแบ่งหน้าจอเป็นสองส่วน ส่วนบนจะมีช่องให้ใส่ Username และ Password พร้อมปุ่ม Create account ส่วนด้านล่างเป็น Sign in ด้วย Facebook พร้อมคำอธิบายว่าไม่ต้องกลัว
หน้าจอตอน Sigin in
ผมทดลอง Sign in แต่แทนที่ผมจะกดปุ่ม Done ด้านบน ผมกลับกดปุ่ม Create account ด้วยความเคยชินว่า Form มักจะมีปุ่ม Submit อยู่ด้านล่าง มันเลยกระโดดเข้าไปหน้า Create account ต้องกดปุ่มกลับมา ถึงมามองดูว่ามีปุ่ม Done ด้านบนให้กดเมื่อพิมพ์ username และ password แล้ว
ถึงตอนนี้ผมไม่อยาก Sign in ละ เลยตัดสินใจระหว่างหนี กับ login ด้วย facebook แทน ตรงจุดนี้ในส่วนของข้อความอธิบาย Facebook ผมมองว่าควรเน้นประโยคว่า "No worry...." มากกว่า "Use Facebook account" เพราะบนปุ่มก็เขียนว่า "Sign in with Facebook" อยู่แล้ว (ลองย้อนกลับไปดูภาพด้านบน)
หลังจากเข้ามาได้ผมกลับพบว่า App ไม่ได้ใช้ข้อมูลบน Facebook ของผมมากนัก จะมีก็ Location ซึ่งอาจจะหาเอาจาก GPS แทนได้
หน้าจอหลังจาก Login
ผมจึงมองว่าน่าจะเข้ากรณีเดียวกับวีดีโอของ WWDC ว่าถ้าข้ามขั้นตอน Login/Register ไปได้ก็ดี แล้วตอนที่เค้าต้องการ Sale หรือต้องการซื้อ ค่อยมา login อีกทีก็ยังทันครับ
นอกเรื่องอีกนิดสำหรับ
นอกจากนั้นจะมีเรื่อง "ตำแหน่งของปุ่มค้นหา" "ปุ่ม Filter" "ตัว Title ของ App" "การใช้ Header ของ Table" icon บน tab bar ที่ทำให้ผมนำไปเทียบกับปุ่มที่เป็น Disable ตอนแรกก็งงๆ ว่ามันกดได้หรือเปล่า หรือต้องกรอกข้อมูลอะไรเพิ่มก่อนหรือเปล่าจึงจะสามารถกดได้
ถ้ามีโอกาสน่าจะได้ยกขึ้นมาเป็นกรณีศึกษาอีก ผมคิดว่าการออกแบบของเค้าน่าจะมีเหตุผลรองรับอยู่แล้ว ต้องขอขอบคุณที่ทำ App ดีๆ ขึ้นมานะครับ และต้องขออภัยที่นำมาเป็นกรณีศึกษาโดยไม่ได้ขออนุญาติก่อนครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น